๒๕๕๑-๐๒-๐๗

อิ่มจัง Japan 4- Thai 1 เฮ้อ



อ่า...ก่อนอื่นก็คงแสดงความเสียใจกับทีมชาติไทยด้วยที่โทรมกลับมาจากญี่ปุ่น ก่อนออกมาเขียนบทความนี้ได้เข้าไปอ่านข่าวที่เว็บสยามกีฬา มีแต่คนบ่นกันมากเสียด้วยกับการแพ้ญี่ปุ่นของไทยในคราวนี้ ด้วยอาจจะเป็นรูปเกมที่ออกมามันทำอะไรไม่ได้จริงๆ และอีกหลายๆเหตุผลที่จะนำขึ้นมาพูด ไม่ว่าจะเป็นสภาพทีมขาดตัวผู้เล่นสำคัญๆ สภาพสนามและอุณหภูมิ เสียงเชียร์ และอื่นๆ แต่ในมุมมองของผมเหมือนนัดนี้ไม่กล้าทำเกมรุกเข้าไปสู้ แม้แต่ตอนโดนเป็น 2-1 ก็ยังตั้งรับตามคำสั่งน้าหรั่งอย่างเคร่งครัด คือถ้ารู้ว่าเป็นรองเขาแล้ว ตั้งรับก็มีแต่รอโดน ผมก็ไม่ได้แตะบอลเก่งอะไรแม้ว่าตอนนี้เอ็นหัวเข่าขาดเตะบอลไม่ได้แล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยในฐานะคนเชียร์ อยากเห็นเกมรุกเข้าไปสู้เขาบ้าง ไม่ใช่อะไรๆก็ตั้งรับอย่างเดียว จะสวนกลับก็ทำกันไม่ได้เอาแต่โยนขึ้นหน้าโดยไม่มีจุดหมาย ในสายตาผม(ทำเป็นเหมือนเก่งอ่ะนะ) ผู้เล่นบางคนอย่างนิรุจน์ ณรงค์ชัย (ที่โดนใบแดง) สุเชาวน์ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก สรายุธ ก็ไม่สามารถเก็บบอลและจ่ายให้เพื่อนเติมเกมส์ได้เลย กลัวกลองหลังญี่ปุ่นมากไปมั้ย กองกลางที่เอ่ยชื่อมาไม่สามารถแม่แต่จะล็อคหลบ ทำเกมอะไรได้เลย เท่าที่เห็นพอจ่ายบอลให้เพื่อนเสร็จก็ยืนนิ่งๆ เหมือนว่าตูเสร็จและ มึงเอาบอลไปต่อกันเองล่ะกัน อ้าวเวรล่ะซิ จ่ายให้ตูแล้วทิ้งกันดื้อๆ ก็ต้องหวดอย่างเดียว ...ส่วนนักแตะญี่ปุ่นชุดนี้ผมว่าก็ยังเก่งน้อยกว่าชุดเดิมๆที่มีตัวเก่งๆ อย่างนาการมูระ นากาตะ อินาโมโตะซะอีก จ่ายบอลเข้าทำก็ยังขาดๆเกินๆเสียมาก แต่ที่รู้ก็คือเขาพัฒนาทีมให้สามารถคุดมเกม เพรสซิ่ง กดดันคู่ต่อสุ้ได้ อย่างเขาอุ่นเครื่องเขาเชิญทีมแบบดีๆมาอุ่นเครื่องด้วย เยอรมันยังงี้ ไม่รุ้ว่าไทยเคยได้อุ่นเครื่องกับทีมแข็งๆแบบเป็นทางการบ้างรึปล่าง ไม่ใช่เอามาขายตั๋วให้คนดูอย่างที่เคยทำมาอย่างเดียว ส่วนเราก็เก่งแต่แค่อินโดฯ มาเลเซีย คาซัคสถาน คือไม่เคยได้พยายามเอาทีมแข็งๆมาเล่นเลย คิงส์คัพ ก็จิ๊บๆจ้อยๆ โอมาน อุซเบกิสถาน เนี่ยเชิญกันจัง ไม่ก็แข่งกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน อิหร่าน ซาอุฯ ออสเตรเลียให้บ่อยๆ ไม่ต้องถึงกับไปเชิญทีมจากยุโรปก็ได้ อีกหน่อยล่ะกันที่ไปซ้อมกับแมนซิตี้เนี่ยไม่รู้ว่าได้อะไรนอกจากทำ PR ให้กับเจ้าของสโมสรเท่านั้น ... จะว่าไปมันเป็นเสียงสะท้อนของกองเชียร์ทีมชาติไทยที่มีต่อการทำทีมหนนี้ ถึงแพ้ก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็คู่ต่อสู้มันเจ็บ มันมีแผลบ้าง อันนี้หมายถึงในเชิงลูกหนังนะ ไม่ได้ให้ไปต่อยไปเตะคู่ต่อสู้ เปรียบเทียบว่าเหมือนคน2คน ต่อสู้กันอย่างน้อยก็ทำให้คนชนะรู้ว่าคนแพ้ก็มีดีเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่ยอมสู้ไม่ยอมทำอะไรเลย ยังมีเกมส์ให้เหลืออีกหลายนัด แต่ยังไงก็เชียร์อ่ะนะ แต่ว่าถ้าใจไม่สู้กันอย่างนี้อีกล่ะก็ ไม่ต่างกันกับตอนที่แพ้ไทเกอร์คัพอัปยศครั้งนั้น และมันก็พลอยจะทำให้หมดศรัทธาซะด้วยซิ.... เอ่อน้าหรั่งครับ ให้โอกาสผู้เล่นคนอื่นบ้างได้ไหมครับ ณงรงค์ชัย กับ นิรุจน์ผมว่าเข็นไม่ขึ้นแล้วนะน้า...

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ใช่คนเก่ง หรือเทวดาที่ไหน แต่เป็นความรู้สึกของคนที่ตามเชียร์บอลไทยคนหนึ่งครับ

ไม่มีความคิดเห็น: