ได้มีโอกาสไปที่งานเปิดโครงการ "ธรรมะใกล้มือ" ที่จัดขึ้น
เมือวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ที่ สสส หรือ สนง.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ นั่นเอง
เป็นความร่วมมือ ระหว่าง หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ กับ ทาง AIS
ในการที่จะนำเทคโนโลยีมารับใช้ธรรมะให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม
โดยจะให้บริการ คลิปเสียงธรรมะจากพระสงฆ์ ที่ได้ปฎิบัติธรรมและศึกษา
ธรรมะอย่างจริงจัง และหลายๆท่านก็เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง อย่างเช่น
ท่านพุทธทาสภิกขุ แม้กายจะล่วงลับไปแล้วแต่คำสอนของท่านยังใช้ได้
ในทุกยุคทุกสมัย แม้ในกระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ตาม
พระธรรมปิฎก (พระพรหมคุณาภรณ์,ป.อ. ปยุตโต)
พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) และ ในวันข้างหน้าก็จะมีพระผู้บรรยายเพิ่มเติม
ในโอกาสต่อๆไป
ในโครงการนี้จะเป็นเหมือน การโทรเข้าไปที่ระบบอัติโนมัติของ AIS
กด *272 ตามด้วย โทรออก และ
ทำการเลือกหัวข้อธรรมะที่จัดแยกไว้เป็นหมวดหมู่ ดังนี้
ธรรมะวันนี้
ความเครียด
การงานอาชีพ
ความรัก
ครอบครัว
สร้างสุขในชีวิต
ธรรมะประจำวัน
เพื่อให้คนในสังคมได้มีที่พึ่ง และหลักในการดำเนินชีวิต โดย คลิปเสียงธรรมะ
นี้จะมีความยาวไม่เกิน 2-3 นาที เพื่อสะดวกในการรับฟัง ไม่ยืดยาวหรือสั้นจน
จับใจความไม่ได้ แต่ก็พอให้ได้ย่อยประโยชน์ที่อยู่ในข้อความธรรมเหล่านั้น
และถ้ามีคนสนใจที่จะฟังคลิปเสียงในเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นฉบับเต็ม ก็มีให้ดาว์นโหลด
ได้ที่ เว็บไซต์ www.dhamma4u.com ก็จะมีเสียงธรรมะไว้ให้ดาว์นโหลดอย่าง
ครบถ้วน
ลืมบอกไปว่า โครงการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการที่จะใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรฯไปฟัง
หรือ ระบบสมาชิก (เพราะเฟสต่อไปจะเป็นการส่ง SMS ธรรมะไปทางมือถือสำหรับ
ผู้สนใจและสมัครสมาชิก) โดยผู้จัดทำตั้งใจว่าจะเป็นโครงการเพื่อ ธรรมทาน สำหรับ
คนในสังคม ที่นับวันมีแต่ความขัดแย้ง วุ่นวาย
บุคคลสำคัญที่ได้มาในพิธีเปิดโครงการก็คือ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย
ประธานคณะกรรมการจัดตั้งหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการ
มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
คุณสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานบอร์ด AIS
คุณปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวยการสำนักบริการเสริม AIS
เริ่มงานมีการพูดคุยถึงจุดประสงค์โครงการ จากศ.นายแพทย์เกษม
ต่อมาก็เป็นการพูดถึงที่มาและความร่วมมือของทุกๆส่วนที่ช่วยให้เกิดโครงการนี้
จาก นพ.บัญชา
ดินป่า จีวัน เปิดงานด้วยดนตรีธรรมะที่ถนัด และมีความหมายดีๆ
บรรยากาศโดยรวมของโครงการนี้
พี่สันติ ซึ่งเป็นอาสาสมัครประสานงานด้านกิจกรรมการเผยแผ่
ของหอจดหมายเหตุฯ ได้พูดคุย ตอบคำถามแก่สื่อมวลชนใน
วันงาน
คุณหมอบัญชา แจกนามบัตร และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ในเรื่องโครงการ รวมถึงงานด้านหอจดหมายเหตุที่กำลังทำ
ควบคู่กัน
แม้ว่าทุกวันนี้ในปัจจุบัน มีแต่สื่อที่ออกไปแต่ในทางด้านไม่ดี
หรือสนองต่อความต้องการทางวัตถุมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
อินเตอร์เน็ต คลิปหลุดต่างๆ การชวนเชื่อมากมาย ประชาชน
คนธรรมดา ควรที่จะคัดกรองว่าสิ่งในคือประโยชน์ที่แท้จริง
สิ่งไหนที่ทำให้เห็นทางออกที่เกิดจากปัญญา ไม่ได้ชี้นำว่า
โครงการนี้ดีเลิศประเสริฐนักหนา แต่มันขึ้นอยู่กับคนที่จะนำ
ไปใช้มากกว่า ว่าจะสามารถนำไปใช้ นำไปคิด นำไปปฎิบัติ
ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และสังคมได้เพียงใด แล้วธรรมะ
จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวคุณอีกต่อไป แต่จะอยู่ใกล้เพียงคุณเอื้อมมือถึง
**วัยรุ่นทั้งหลาย อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเชย หรือ น่าเบื่อเลย แม้เพียง
เสี้ยวหนึ่งของหลักธรรมะ ถ้าได้นำไปใช้หรือปฎิบัติ อย่างน้อยสังคม
ที่อยู่ในปัจจุบัน มันคงจะดีกว่านี้เยอะ แทนที่จะมัวไปหลงกับกระแส
ลดโลกร้อน ซึ่งบางอย่างก็เป็นเพียงการตลาด คิดไหมว่า ธรรมะที่
คนรับไปปฎุิบัตินี่แหล่ะหนา ที่จะทำให้โลกคลายร้อนทั้งทางกายและจิตใจ**
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น